ภัยจากอินเทอร์เน็ต
เนื่องจากการใช้อินเตอร์เน็ต
และการใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ในปัจจุบันมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คนไทยได้มีการอ่านข่าวสารผ่านเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น
มีการใช้อินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูล หรือแม้แต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็มีสัดส่วนที่สูงขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม
ปัญหาที่ตามมาจากอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือ
ความปลอดภัยของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
จะเห็นได้ว่าประเด็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกลวงบนอินเตอร์เน็ตและอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัญหาที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตพบอยู่บ่อยๆ
มิจฉาชีพก็ได้หาวิธีที่แยบยลมากขึ้น เพื่อใช้เป็นกลลวงและหลอกล่อเหยื่อให้หลงเชื่อ
เช่น การส่งอี-เมลที่เป็นอี-เมลปลอม (สแปม)
หรือการหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงแบบฟอร์ม สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางการเงินแก่เหล่ามิจฉาชีพ
อันดับที่
10
ปัญหาใหญ่บนโลกออนไลน์เองอาจจะไม่เกิดจากปัญหาของอินเตอร์เน็ตหรือปัญหาทางด้านเทคนิค
แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้เอง
ซึ่งผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะผูกตัวเองเข้ากับโลกออนไลน์มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เริ่มมีการใช้ชีวิตและสังคมบนโลกออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้ง การพูดคุย พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ
บนโลกออนไลน์ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนไป
เสมือนเป็นการตัดขาดชีวิตจากโลกภายนอก ลืมวิธีการใช้ชีวิตจริงๆ ไป
ซึ่งมีวิจัยจากหลายหน่วยงานได้สรุปผลออกว่าคนในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนและพูดคุยกับคนไม่รู้จักบนโลกออนไลน์มากขึ้น
และมีความสุขกับการสร้างตัวเองใหม่ ที่เป็นตัวละครบนโลกออนไลน์
เนื่องจากเราจะเป็นใครก็ได้บนโลกออนไลน์
แต่สิ่งนี้กลับทำให้เป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
อันดับที่
9
จะไม่มีความลับบนโลกนี้อีกต่อไป
โลกของความปลอดภัยนั้นหาได้ยากบนโลกออนไลน์ ข้อมูลต่างๆ
ถูกโอนถ่ายจากเว็บหนึ่งสู่เว็บหนึ่งทั้งที่เจ้าของข้อมูลรู้ตัวและไม่รู้ตัว
การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการหาชื่อ นามสกุล
ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลเหล่านี้ง่ายต่อการถูกเปิดเผย
การที่สมัครเพื่อเป็นสมาชิกเว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์ บัญชีอี-เมลหนึ่งอี-เมล
มีข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็นที่จะต้องให้ และใครจะรู้บ้างว่าข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเก็บ
หรือถูกส่งต่อไปยังที่ใดต่อไป โดยเฉพาะในปัจจุบันโลกของสังคมออนไลน์ (Social Network)
ได้ถือว่าเป็นฐานข้อมูลอย่างดีให้กับองค์กรธุรกิจมากมายเพื่อหาผลประโยชน์ในการใช้เป็นฐานข้อมูลลูกค้า
อันดับที่
8
ในยุคนี้
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนโลกเราทุกวันนี้มีมากมายเหลือเกิน ซึ่งผู้ประสบภัยต่างๆ
ทุกทั่วมุมโลก ต่างได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย มีองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน
องค์กรอิสระที่ไม่หวังผลกำไร คอยช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประสบภัยธรรมชาติต่างๆ
ซึ่งเหล่าอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่เว้นที่จะใช้ประโยชน์จากน้ำใจของมวลมนุษย์มาเป็นเหยื่อ
มีการเกิดขึ้นของเว็บไซต์มากมายที่เป็นเว็บไซต์การกุศลจอมปลอมที่ทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนผู้ใจบุญ
ที่มีความประสงค์ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความลำบากทำการบริจาคเงินไปยังองค์กรที่หลอกต้มตุ๋นดังกล่าว
อันดับที่
7
หลายๆ
คนในยุคไซเบอร์นี้นิยมที่จะส่งบัตรอวยพรไปให้เพื่อนๆ ผ่านทางอี-เมล
หรือทางบัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ (E-Card) ดังนั้น เหล่าอาชญากรไซเบอร์จึงอาศัยช่องทางนี้ในการหลอกลวงและเข้าถึงข้อมูลของเหยื่อ
อาชญากรไซเบอร์จะใช้วิธีการส่งบัตรอวยพรเทศกาลปลอม (Spam E-Card) ที่แฝงด้วยลิงก์ที่เป็นสแปม (Spam) มาให้เหยื่อทางอี-เมล
อาจจะถูกส่งมาจากอี-เมลของอาชญากรไซเบอร์เอง หรือจากเพื่อนของเหยื่อที่อี-เมลนั้นได้ถูกแฮ็ก
(Hack) เข้าไปในบัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว
และทำการส่งต่อไปยังเพื่อนๆ เมื่อเหยื่อได้รับอี-เมล และเปิดอ่าน
จะมีลิงก์ให้เหยื่อทำการกด (Click) เพื่อทำการเปิดบัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
แต่เบื้องหลังแล้วเป็นการทำการสั่งให้สแปมทำงาน และนั่นทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อตกอยู่ในอันตรายทำให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเข้าไปดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อได้
หรือทำให้สามารถดึงข้อมูลรายชื่ออี-เมลของเพื่อนๆ ได้ต่อไป
อันดับที่
6
โฆษณาแฝงด้วยไวรัส (Malware) สังเกตได้ว่าเว็บไซต์ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วย
2 ประการ คือ
หนึ่ง
การที่มีคนเข้าจำนวนมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าเว็บไซต์เป็นประจำ (unique
Visitors) และ สอง
คือโฆษณาที่ถือว่าเป็นแหล่งรายได้และทำเงินให้กับเว็บไซต์ต่างๆ อยู่รอดได้ ดังนั้น
การที่จะมีโฆษณาบนเว็บหรือมีธุรกิจที่สนใจในการลงโฆษณาบนเว็บไซต์ได้นั้น
ต้องอาศัยตัวแปรที่หนึ่งคือ
มีคนเข้าเว็บไซต์จำนวนมากพอสมควรที่จะดึงดูดให้ธุรกิจมาโฆษณากับทางเว็บไซต์ในปัจจุบันเว็บไซต์ที่มีโฆษณาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกตาเฉกเช่นกับในอดีต
ดังนั้น อาชญากรไซเบอร์จึงฉวยโอกาสที่ผู้เข้าเว็บไซต์ไม่ทันได้ระวังทำการเผยแพร่โฆษณาที่แฝงด้วยไวรัส
เมื่อผู้เป็นเหยื่อทำการคลิกที่โฆษณานั้นแล้ว
ตัวไวรัสจะถูกทำงานและฝังตัวอยู่ในเครื่องทำให้เมื่อเหยื่อเข้าเว็บไซต์ใดก็ตาม
จะเกิดหน้าต่างเด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความรำคาญของผู้ใช้งาน
ซึ่งผู้ใช้งานเองอาจมีความเข้าใจว่า มีโปรแกรมป้องกันไวรัสแล้วสามารถยับยั้งได้ แต่ปัญหาใหญ่คือ
โปรแกรมแอนตี้ไวรัสรุ่นเก่าไม่สามารถตรวจพบสปายแวร์ได้
ทำให้ต้องใช้โปรแกรมประเภทแอนตี้สปายแวร์เพิ่มเติม
อันดับที่
5
อันตรายจากการใช้โปรแกรมแช็ต (Instant
Messaging) เช่น MSN เหล่าอาชญากรไซเบอร์หาช่องทางในการเจาะและแพร่ไวรัส
หรือมัลแวร์ผ่านทางโปรแกรมแช็ตที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะการทำงานคือ
เมื่อท่านใช้งานในโปรแกรมแช็ตกับเพื่อนของท่าน
ท่านอาจจะได้รับข้อความให้รับไฟล์ที่ชื่อว่า Image.zip จากเพื่อนของท่าน
ถ้าท่านเผลอกดรับไปแล้ว
โปรแกรมไวรัสจะถูกทำงานและทำให้รายชื่อของเพื่อนของท่านถูกลบออกไปหมด
และยังเป็นการส่งโปรแกรมไวรัสดังกล่าวไปให้เพื่อนของท่านโดยที่ท่านไม่รู้ตัว
อันดับที่
4
ภัยจากการโหลดไฟล์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
(Bit
Torrent) อะไรก็ตามที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เป็นที่นิยม
จะเป็นช่องที่พวกอาชญากรไซเบอร์ให้ความสนใจ เช่น
โปรแกรมที่เหล่านักดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือโปรแกรมใหญ่
ต่างใช้กันคือ Bit Torrent ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถทั้งการดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ๆ
ด้วยความเร็วสูง แถมยังสามารถหาไฟล์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เหล่าอาชญากรไซเบอร์จึงทำการปล่อยไฟล์ที่ได้รับความนิยมพร้อมกับการแฝงตัวไวรัสและมัลแวร์มายังเครื่องของเหยื่อผ่านการดาวน์โหลด
และทำการส่งต่อไปยังเหยื่อรายต่อไปในขณะที่เหยื่อทำการอัพโหลด ผลกระทบที่เกิดขึ้นเครื่องคอมพิวเตอร์
หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ มีความเร็วลดลง
และเป็นการเปิดช่องว่างทำให้เหล่าแฮกเกอร์ใช้ในการเจาะเข้าระบบขององค์กรต่อไป
อันดับที่
3
ภัยจากเว็บไซต์ปลอม (Phishing) ลักษณะของเว็บปลอมนั้น อาชญากรไซเบอร์จะทำการส่งอี-เมลไปยังเหยื่อ
โดยอาจจะใช้ที่อยู่และอี-เมลของธนาคาร เมื่อเหยื่อทำการคลิกเข้าไปแล้ว
หน้าต่างใหม่จะถูกเปิดขึ้น
โดยหน้าตาเว็บไซต์ปลอมนั้นจะมีลักษณะเหมือนกับหน้าเว็บไซต์จริงๆ ของธนาคาร
และจะมีข้อความแจ้งในทำนองว่า ให้เหยื่อทำการอัพเดทข้อมูลส่วนตัว เพื่อปรับปรุงและสามารถเข้าใช้งานได้ต่อไป
เมื่อเหยื่อกรอกข้อมูลแล้ว กดยืนยัน
ข้อมูลที่เหยื่อกรอกกับถูกส่งไปที่อาชญากรไซเบอร์ แทนที่จะไปที่เว็บไซต์ของธนาคาร
เว็บไซต์ประเภทนี้ยังคงเป็นช่องทางหลักของเหล่าอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้ในการหลอกเหยื่อให้หลงกล
ทำให้เหยื่อหลงเชื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว รหัสต่างๆ
ซึ่งทำให้อาชญากรไซเบอร์เหล่านั้นสามารถนำข้อมูลของเหยื่อไปใช้ประโยชน์ต่อไป
อันดับที่
2
Wi-Fi
ปลอม มีลักษณะเดียวกันกับเว็บไซต์ปลอม (Phishing) แม้ว่าหลักการยังคงเหมือนเดิมแต่รูปแบบของการใช้เว็บปลอมก็ได้มีการพัฒนาให้มีความแยบยลมากขึ้น
เช่น การที่เหยื่อเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านหนึ่ง และค้นหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย
(โดยเฉพาะที่ฟรี) ซึ่งอาชญากรไซเบอร์รู้ถึงพฤติกรรมนี้ดี
ว่าเมื่อคนเราเจอสัญญาณฟรีในที่สาธารณะ เรามักจะลองเข้าเพื่อใช้งาน
ซึ่งอาชญากรไซเบอร์ก็ได้เตรียมเว็บไซต์ปลอมสำหรับการให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีขึ้น
โดยเมื่อเหยื่อได้ทำการเชื่อต่อสัญญาณ
จะมีหน้าต่างปรากฏในลักษณะที่แจ้งถึงเงื่อนไขการใช้บริการฟรีอินเตอร์เน็ต
เพียงแต่ให้เหยื่อกรอกข้อมูลก็สามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตฟรี
อาจจะเป็นเพียงการกรอกข้อมูล อี-เมล และตั้งพลาสเวิร์ดสำหรับการใช้งาน
แต่โดยปกติคนเราก็มักจะใช้พลาสเวิร์ดซ้ำๆ กันอยู่แล้ว
ทำให้เหล่าอาชญากรไซเบอร์ทำการสุ่มและเดาได้ว่าจะใช้พลาสเวิร์ดที่ได้มาทำอะไรต่อไป
และเมื่อเหยื่อกรอกข้อมูลกับเป็นการส่งข้อมูลนั้นไปยังอาชญากรไซเบอร์
แถมยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้อีก
อันดับที่
1
สังคมที่ตกต่ำลง
เป็นผลพวงของการเติบโตอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ายากที่จะควบคุม
ความอันตรายของโลกออนไลน์ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบมากมาย (โดยเฉพาะในทางไม่ดี)
มีการโชว์คลิปต่างๆ
ที่เป็นการทำลายจริยธรรมของมนุษย์ผ่านทางเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิป ส่งผลเสียต่อสังคมและวัฒนธรรม
ทำให้เด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อย ส่อแววมีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายคลิปทำร้ายร่างกายกัน
การบังคับขืนใจและใช้การถ่ายคลิปเพื่อข่มขู่ การทำร้ายกัน การฆ่าตัวตาย
หรือแม้แต่การถ่ายรูปตัวเองในลักษณะที่ยั่วยวนและนำขึ้นไปโพสท์ตามเว็บต่างๆ
ทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมทางเพศของเด็กและเยาวชนที่รวดเร็วขึ้น และทำให้เกิดคดีการล่อลวงเด็กและเยาวชนที่สูงขึ้นเช่นกัน
ข้อมูลอ่านเพิ่มเติม